ยินดีต้อนรับ

ยินดีต้อนรับ
ผึ้งงาน-SDU ยินดีต้อนรับค่ะ การจัดการความรู้และการแสวงหาความรู้ การรู้จักให้และรู้จักแบ่งปัน ถ้าไม่รู้จักสิ่งเหล่านี้แล้ว ความรู้ที่มีจากการจบปริญญาใดๆ คงจะไม่สำคัญ สิ่งที่มีคุณค่าของคน ...อยู่ที่ผลของงาน..และการมีจิตใจที่ดีงาม.

ภาพความทรงจำ กรุงปักกิ่ง

ภาพความทรงจำ กรุงปักกิ่ง
SDU สองรุ่นใจรวมเป็นหนึ่งเดียว

วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2550

การวิเคราะห์ค่าเงินบาทต่อเงิน US dollar

สอบ Final
การวิเคราะห์ค่าเงินบาทต่อเงิน US dollar

คำถาม การพยากรณ์ค่าเงินบาทต่อเงิน US dollar วันที่12 กันยายน 50 ว่าค่าเงินบาทแข็งตัวหรืออ่อนตัว เมื่อเทียบกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างเงินบาทกับเงิน US dollar ณ วันที่ 31 ตุลาคม 50 โดยใช้อัตราของ ธนาคารกรุงเทพ

ตอบ 1. จากการประเมินค่าเงินบาทระหว่างวันที่ 12 ก.ย. - 10 ต.ค. 50 นั้นค่าที่เปลี่ยนไปของครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 (ในแต่ละวัน) มีค่าอยู่ระหว่าง 34.39 – 34.46 คิดเป็นค่าเฉลี่ย = 34.43 มีความแตกต่าง = 0.07 คิดเป็น 0.20 % และยังไม่มีปัจจัยด้านลบหรือด้านบวกที่จะส่งผลทำให้ค่าเปลี่ยนแปลงมากนักจึงถือว่าคงที่อยู่
2. ดังนั้นคิดว่าการพยากรณ์ค่าเงินบาทต่อเงิน US dollar วันที่ 12 ตุลาคม 50 ว่ามีค่าเงินคงที่ ( ค่าของเงินเพิ่มขึ้นหรือลดลงไม่เกิน 1 % ของอัตราแลกเปลี่ยน ) เมื่อเทียบกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา ระหว่างเงินบาทกับเงิน US dollar ณ วันที่ 31 ตุลาคม 50 โดยใช้ อัตราของ ธนาคารกรุงเทพ

คอนโดสุนัข วัดสวนแก้ว นนทบุรี

กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ของนักศึกษาปริญญาโท สาขาการจัดการความรู้ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2550

จาก KM..FOR..FUN..D สู่บ้านเด็กพิการซ้ำซ้อน...บ้านเฟื่องฟ้า.


คืนกำไร..คืนชีวิต..สู่สังคม เนื่องมาจากกิจกรรม KM..FOR..FUN..D ของนักศึกษาปริญญาโทมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต รุ่น 1,2,3, ได้นำรายได้จากการจัดงาน มาช่วยเหลือคืนกำไรสู่สังคมที่บ้านเด็กพิการซ้ำซ้อน บ้านเฟื่องฟ้า ปากเกร็ด นนทบุรี


สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา "บ้านเฟื่องฟ้า" เป็นหน่วยงานภาครัฐ ทำหน้าที่ให้บริการด้านสังคม มีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้การอุปการะเลี้ยงดูเด็กอ่อนพิการทุกประเภท ทั้งชายและหญิงมีอายุ แรกเกิดถึง 7 ปี



สาเหตุการรับ เนื่องจากเป็นเด็กพิการที่ถูกทอดทิ้งตามสถานที่ต่างๆ บิดามารดาหรือญาตินำส่งเพราะยากจน เดือดร้อน ประสบปัญหาจนไม่สามารถจะเลี้ยงดูเด็กได้บิดามารดาต้องโทษ รวมทั้งเป็นเด็กที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำส่ง หรือหน่วยงานต่างๆนำส่ง ซึ่งการพิการมีทั้งพิการทางร่างกาย ด้านการเคลื่อนไหว ตาบอด เป็นใบ้หูหนวก พิการทางสติปัญญา พิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม พิการมากกว่าหนึ่งอย่างหรือพิการซ้ำซ้อน

บรรยากาศในวันนั้นได้มีการนำเงินส่วนหนึ่งซื้อเป็นของใช้จำเป็นต่างๆสำหรับเด็กๆ เช่น แป้ง ขวดนม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป นม แผ่นรองซับสำเร็จรูป แปรงล้างขวด และอื่นๆ อีกส่วนหนึ่งมอบเป็นเงินให้มูลนิธิบ้านเฟื่องฟ้า โดยมีน้องใบหม่อนหรือ เด็กหญิงปราณี ไกลถิ่น เป็นตัวแทนเพื่อนๆมาร่วมถ่ายรูปกับพี่ๆที่มาเยี่ยม ซึ่งน้องใบหม่อน พิการไม่มีทั้งแขนและขาทั้งสองข้าง มีเฉพาะส่วนลำตัว อายุ 3 ขวบ น่ารักทีเดียว เป็นเจ้าบ้านที่ดี ยิ้มเก่ง คุยเก่งและน่ารักมาก













ความรู้สึกเมื่อได้มาเยี่ยมบ้านเฟื่องฟ้า เดินเยี่ยมชมอาคารเลี้ยงเด็ก บางส่วน ทำให้รู้สึกหลากหลาย ทั้งสาเหตุที่น้องๆเหล่านี้มาอยู่รวมกัน และความรู้สึกของพี่เลี้ยง ที่มีความอดทน และเสียสละอย่างมากในการต้องดูแลเด็กเล็กๆจำนวนมาก ซึ่งช่วยเหลือตัวเองได้ไม่มากนัก พี่เลี้ยงต้องคอยป้อนอาหารให้ แต่น้องๆดูดีใจที่มีคนมาเยี่ยม ซึ่งน้องๆคงอยากจะให้พี่ๆมาเยี่ยมบ่อยๆ

คนที่สิ้นหวังและท้อแท้ในชีวิตหรือคิดฆ่าตัวตาย อยากให้ท่านได้มาดูสภาพของน้องๆดูบ้างว่า น้องๆเขามีสภาพที่พิการซ้ำซ้อน แต่เขาก็ทระนงในการที่จะมีชีวิตอยู่ พยายามดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่ แล้วท่านเล่ามีอาการครบ 32 จะมีจิตใจที่อ่อนแอหรือท้อแท้ สิ้นหวังในชีวิต น่าอายน้องๆ


การบูรณาการความรู้คู่กับคุณธรรม นั้นเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ ดังนั้นสิ่งที่พวกเราได้ทำในวันนี้ก็คือความภาคภูมิใจในชีวิตอีกอย่างหนึ่งในการได้มาช่วยเหลือและเยี่ยมน้องๆบ้านเฟื่องฟ้า ถ้าท่านมีเวลาก็แวะไปเยี่ยมและช่วยเหลือบริจาคสิ่งของให้น้องเหล่านี้บ้าง ท่านจะได้รับความสุขใจในชีวิตและร่วมกันช่วยเหลือสังคม ..ซึ่งยังรอโอกาสจากทุกท่านอยู่เสมอค่ะ.






....การรู้จักให้...ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน...ทำให้เกิดการเรียนรู้..เป็นส่วนหนึ่งของ KM...

KM …NOK .....อยู่บ้านนอก...แต่หัวใจ...เซ็นเตอร์พอยด์...



NOK เป็นบริษัทที่ได้รับรางวัลจาก หน่วยงานของรัฐและเอกชน รางวัลด้านสิ่งแวดล้อมและอื่นๆอีกมากมาย เป็นbest practiceที่น่าสนใจ NOK เพิ่งก่อตั้งเมื่อ 27 มีนาคม 2544 ได้รับความสำเร็จมากโดยใช้การจัดการบริหารแบบ ไคเซ็นและ 5ส มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าทึ่ง NOK เป็นโรงงานทีผลิตส่วนประกอบของฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ และชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ ตั้งอยู่ที่บางประอิน จ.อยุธยา เป็นการทำKM ที่ได้ประสิทธิภาพและมีหน่วยงานจำนวนมากที่เลือกมาดูงานที่นี่และก็ได้เห็นสิ่งที่น่าสนใจมากมาย















การเยี่ยมชมสถานที่ โดยรอบจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่พนักงานทุกรูปแบบ ตามทางเดิน ห้องอาหาร แม้กระทั่งในห้องน้ำ ก็จะมีสาระน่ารู้ติดทั้งประตูด้านในห้องน้ำและทั่วบริเวณภายในห้องน้ำ

บรรยากาศภายนอก
1. เนื่องจากเมื่อเดินเข้ามาจะเห็นว่ามีป้าย โชว์ชั่วโมงการปฏิบัติงาน 1,000,000 ชั่วโมงการทำงานติดต่อกันโดยไม่เกิดอุบัติเหตุ เป็นการเน้นความปลอดภัย ได้รับรางวัล “ Zero Accident Campaign”

2. จะเน้นการรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงานเนื่องจากความร้อนภายนอก โดยการปลูกต้นไม้เป็นแถวปิดตัวอาคารหรือเรียกม่านต้นไม้และใช้กระจกกรองแสง เพื่อลดความร้อน

3. มีการระบายความร้อนจากแอร์ภายในอาคารออกสู่ด้านบนของตัวอาคาร(ถังสีฟ้า)เพื่อลดอุณหภูมิและถ่ายเทอากาศได้ดีลดพลังงาน
4. คนสวนได้ทำปุ๋ยจุลินทรีย์เองหรือน้ำBMจากขยะสดแล้วปล่อยน้ำBM ไปตามท่อส่งน้ำของโรงงานก่อนสู่บ่อบำบัดอีกที



5. ต้นไม้ก็มีรหัสบอกเป็นตัวเลขซึ่งจะสามารถบอกได้ว่าเป็นความรับผิดชอบของใคร บรรยากาศรอบโรงงานมีต้นไม้เยอะ ร่มรื่น เย็นสบาย

6. ทางเข้าออกของอาคาร จะมีที่พักอากาศ เพื่อกั้นความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในเป็นประตูกัก 2 ชั้น เพื่อประหยัดพลังงาน
บรรยากาศภายใน
ภายในตัวอาคารแทบจะไม่เห็นการใช้กระดาษในการติดข่าวประชาสัมพันธ์ เนื่องจากมีนโยบายลดการใช้กระดาษในการทำข่าวสารเพื่อลดพลังงาน เปลี่ยนมาใช้บอร์ดอัจฉริยะ ที่เป็นระบบคอมพิวเตอร์เกือบทั้งหมด มีทั้งระบบสัมผัสและ Online สิ่งที่เห็นจากบรรยากาศภายใน




1. เมื่อเดินทางมาไกลมาถึงก็จะแวะเข้าห้องน้ำก่อนสิ่งแรกที่พบก็คือ ความสะอาดไร้กลิ่น ต่อมาภายในมีข่าวสารความรู้ติอยู่รอบผนังห้องน้ำและในห้องน้ำเมื่อทำธุระส่วนตัว ก็จะเห็นมีสาระน่ารู้ติดอยู่ที่ประตูด้านในห้องน้ำ พอมาล้างมือก็จะเห็นความรู้เหนืออ่างล้างมืออีก เป็นการให้ความรู้...ทุกที่ทุกเวลา...จริง











2. หน้าห้องประชุมที่ใช้รับรองผู้มาเยี่ยม จะมีจอคอมพิวเตอร์ lCD ติดอยู่ที่หน้าประตู (แทนป้ายกระดาษต้อนรับ) ซึ่งจะแสดงว่าใครมาใช้งาน เวลาไหน ใช้งานด้านไหน ดูข้อมูลได้จากจอนี้ ซึ่งการใช้ต้องจองผ่านระบบ Online ล่วงหน้า เมื่อประชุมเสร็จแล้ว ก็จะเตรียมห้องพร้อมใช้งาน และติดป้าย “ Clear”










3. ภายในทางเดินจะมีป้ายบอกเป็นระเบียบ มีป้ายวิสัยทัศน์แสดงชัดเจนตัวใหญ่มาก ให้เห็นทั้งคนภายนอกและคนภายในเพื่อเตือนความทรงจำ เป็นการประกาศวิสัยทัศน์ที่ชัดแจ้ง ไม่ได้ติดที่ใดที่หนึ่ง แต่ติดทั่วบริเวณ ที่ห้องอาหารจะมีเครื่องคล้ายตู้ ATM ให้พนักงานไว้ใช้รูดบัตร ซึ่งจะแสดงรายการข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด ทั้งค่าอาหาร การลา ประวัติการทำงาน และสิทธิ์ต่างๆของพนักงาน
4. การจัดการในโรงอาหารน่าสนใจ ด้านข้างจะเป็นที่อ่านหนังสือพิมพ์เรียงเป็นระเบียบ โต๊ะที่นั่งรับประทานอาหาร จะเห็นว่าที่ขอบโต๊ะทุกโต๊ะด้านใดด้านหนึ่งจะมีถาดใส่ผ้าเช็ดโต๊ะอยู่ ซึ่งจะเปลี่ยนทุก 10 นาที เพื่อให้พนักงาน เมื่อทานเสร็จแล้วก็เช็ดโต๊ะด้วย เพื่อตนอื่นจะได้สะดวกมาใช้ต่อได้เลย แล้วก็เก็บจานเองนำไปวางที่จัดไว้ จะดูสะอาดและเป็นระเบียบ ในห้องอาหารจะมีห้องคาราโอเกะด้วยไว้ให้พนักงานผ่อนคลาย





5. การเยี่ยมชมภายในอาคาร มีการควบคุมฝุ่นและจะเน้นเรื่องความสะอาด เทียบเท่ากับห้องผ่าตัดเลยทีเดียว จะเห็นว่าผู้เยี่ยมชมจะต้องใส่ถุงคลุมรองเท้าและผ้าปิดปาก หมวกคลุมผมด้วย พร้อมแล้วก็เยี่ยมชมการทำงานได้เลย ซึ่งส่วนใหญ่ใช้หุ่นยนต์ทำงานแทน พนักงานก็ควบคุมการทำงานอีกที พนักงานใส่ชุดป้องกันเป็นพิเศษและต้องเดินเข้าช่องเป่าฝุ่นที่มีทางเดินเลี้ยวไปมาประมาณ 30 วินาที แล้วจึงจะเข้าสู่บริเวณได้ บริเวณด้านหน้าประตูทุกห้องจะมีแผ่นกาวเพื่อดักฝุ่นจากรองเท้าด้วยเหมือนกัน พนักงานทุกคนต้องไม่แต่งหน้าทาแป้งทำงาน เป็นระเบียบเพราะว่าฝุ่นจากแป้งเหล่านี้จะมีผลต่อชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์เล็กๆเหล่านี้ให้เกิดเสียหายได้









6. ด้านห้องปฏิบัติการได้ใช้ 5 ส อย่างลงตัว และมีวิธีใช้พร้อมกับติดรูปผู้รับผิดชอบ(หลายที่ก็คงทำอยู่) แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ มีรูปถ่ายสภาพเดิมก่อนใช้งานติดอยู่ด้วย ซึ่งหลังเสร็จงานหรือตอนเย็นก็จะต้องจัดของให้อยู่ในสภาพเดิมตามภาพให้เรียบร้อยก่อนเลิกงาน จะสังเกตเห็นว่าถังน้ำยาดับเพลิง มีทุกห้องและวางให้เห็นเด่นชัด พร้อมใช้งานและกำหนดผู้นำถือธงมีธงหลายสีแบ่งกลุ่ม เวลาเกิดเหตุเพลิงไหม้ ต้องปฏิบัติตามผู้นำสีใครสีมัน เพื่อจะได้เป็นระเบียบไม่โกลาหล

7. ในส่วนของสำนักงานที่เป็นฝ่ายเอกสาร จะเห็นได้ว่า ทั้งสำนักงานมีตู้เก็บเอกสาร เพียง 2 ใบเท่านั้น กระดาษแฟ้มบนโต๊ะไม่มี ทุกอย่างใช้คอมพิวเตอร์อยู่ในระบบ Online ทั้งหมดทั้งใบสมัคร ใบลา เอกสารต่างๆทุกอย่าง ดังนั้นพนักงานทุกคนจะได้รับการฝึกใช้คอมพิวเตอร์และใช้งานได้ทุกคน และมีคอมพิวเตอร์ใช้ทุกคน ถ้าระดับหัวหน้างานจะมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กให้ใช้ทุกคน












8. เครื่องใช้ในสำนักงานวางเป็นระเบียบมีของส่วนกลาง 1 ชุด ใช้ด้วยกัน(เพื่อลดรายจ่ายที่ต่างคนต่างมี) ถ้าใครนำไปใช้จะต้องวางรูปตรงจุดที่นำอุปกรณ์ชิ้นนั้นไป ในส่วนของแฟ้มก็ทำเช่นเดียวกัน จะสมามารถรู้ได้ทันทีว่าใครหำลังนำไปใช้อยู่




9. ห้องพัสดุ เป็นระเบียบมากและของก็ไม่เยอะจนเกินความจำเป็น วางจัดเหมือนห้างสรรพสินค้า วัสดุทุกชิ้นจะมี Barcode ติดอยู่ใน ใช้ระบบ first in and first out เบิกและตัดจ่ายโดยใช้ระบบ Online จะสมารถรู้ทันทีว่าของอันไหนเหลือเท่าไหร่ จะเพิ่มหรือสั่งชื้อได้ทันทีไม่ต้องสต๊อกไว้มากและเป็นระเบียบจริงๆ

10. ห้องควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ ก็มีขนาดไม่ใหญ่แต่มีประสิทธิภาพสูงมาก จะสามารถเช็คทุกอย่างพร้อมทั้งมีการวางแผนการใช้งานอย่างดี มีระบบกันคอมพิวเตอร์เครือข่ายล่ม มีตัวสำรอง 1,2 ทำงานต่อได้ทันที เนื่องจากที่นี่ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมเกือบทั้งหมด มีกล้องวงจรปิดติดทั้งโรงงานทุกบริเวณ ยกเว้นห้องน้ำ จากจอของคอมพิวเตอร์ ระดับหัวหน้าจะสามารถเช็คดูการทำงานในขณะปัจจุบันจากหน้าจอได้ทุกจุด ว่าทำงานกันอย่างไร มีปัญหาอะไรก็สามารถเห็นภาพได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าไปที่เกิดเห็น ทันสมัยมากๆ

11. ในส่วนสวัสดิการของพนักงานก็เน้นความสุข 8 ประการในองค์กร คือ
1. Happy body - สุขภาพแข็งแรง เล่นกีฬา โยคะ sport complex
2. Happy heart - ความเอื้อเฟื้อเผื่อแพร่ มีน้ำใจต่อกัน
3. Happy society - ช่วยเหลือสังคม
4. Happy relax - ส่งเสริมการไปเที่ยว ผ่อนคลาย คาราโอเกะ
5. Happy brain - Knowledge Asset, Internet , ห้องสมุดให้ค้นคว้า
6. Happy soul - ทางสงบ ทำบุญ เน้นจิตใจ
7. Happy money - ใช้จ่ายพอเพียง ส่งเสริมให้ออมเงิน ปลอดหนี้
8. Happy family - สนับสนุนกิจกรรมครอบครัว
12. โครงสร้าง KM ของ NOK
- กลยุทธ์เพื่อก้าวสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้
1. Smart System –เทคโนโลยีสารสนเทศ
- สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
- บริหารงานด้วยความโปร่งใส
- สร้างความสมดุลระหว่างคนกับระบบ
2. Small Group Activity – กิจกรรมกลุ่มย่อย
- ทำงานเป็นทีม
- ปรับปรุงอยางต่อเนื่อง
- ใช้หลัก Win-Win ในทุกหน่วยงาน
- องค์กรแห่งการเรียนรู้ , การจัดการความรู้ , การเรียนรู้ด้วยตนเอง
- มีความเป็นมืออาชีพในงาน
- ดำรงการเติบโตของธุรกิจ


- NOK KM Model -มุ่งเน้นที่คน

- Source of Knowledge – Research, Library, Internet, Intranet, Experiment, Training, Self-access, E-System, Language, Basic Science, Expert& Consultant etc.

- Small Group Activity คือ กิจกรรมกลุ่มย่อยที่พนักงานทุกคน ทุกตำแหน่งมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่างเช่น กิจกรรม, 5ส, ความปลอดภัย, TPM เป็นต้น โดยเริ่มจากการแบ่งกลุ่มพื้นที่การปฏิบัติงาน ประมาณ 8-10 คน โดยแต่ละกลุ่มจะประกอบด้วย หัวหน้าทีม ลูกทีมและที่ปรึกษาที่มาจากพี่ๆ ระดับ วิศวกร พนักงานประจำ พนักงานอาวุโส และผู้บริหารจากทุกแผนก

โดยปัจจุบันมีSGA จำนวน 65 กลุ่ม ครอบคลุมพื้นที่ทั้งองค์กร ในการดำเนินกิจกรรมสมาชิกในกลุ่มจะมีการประชุมแลกเปลี่ยนความรู้กัน ประมาณ 10-30 นาที ในแต่ละวัน ทำการสำรวจสิ่งผิดปกติและส่วนที่ต้องปรับปรุงของทุกกิจกรรม เดือนละ 1 ครั้ง การกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานาในพื้นที่ของตน ถ่ายทอดความรู้ในเรื่องงาน โดยการสร้างบทเรียน One point Lesson และ Kaizen Suggestion System ทุกกลุ่มสามารถที่จะค้นคว้าพัฒนาตนเองได้ โดยหาข้อมูลต่างๆ จากห้องสมุด เวบไซต์ข้อมูลภายในบริษัท ดูงานเพื่อนกลุ่มอื่นๆ และการสอนจากที่ปรึกษาและหน่วยงานฝึกอบรม เป็นต้น


- Knowledge Asset - แหล่งเรียนรู้ขององค์กรมี 2 แหล่งใหญ่ๆ คือ ระบบ Intranet และต่อมาพัฒนาต่อยอดเป็นระบบ Portal ขึ้นใช้เองในองค์กร เป็นที่รวบรวมข้อมูลของทุกฝ่าย ทุกกิจกรรม ตลอดจน การลากิจ ลาป่วย เวลาทำงาน การเบิกของ รายงาน รายงานการประชุมและกิจกรรมขององค์กรซึ่งมีอยู่จำนวนมาก จะถูกจัดระบบไว้ในนี้ทุกๆสายงานจะบรรจุข้อมูลงานของทุกคนลงใน Portal รวมทั้งรายงานหน้าเดียว โดยผลการดำเนินงานของทุกฝ่ายจะถูกใส่ในฐานข้อมูล นอกจากนี้ยังช่วยลดปริมาณกระดาษและแฟ้มเอกสารได้อย่างมาก โดยสามารถเปิดดูข้อมูลที่ถูกปรับปรุง ที่เป็นปัจจุบันที่สุด ได้ในระบบ Portal

13. ความเป็นทีมของพนักงานNOK จะเห็นได้ว่ามี่ความพร้อมมากในการทำงาน คุณสราวุฒิ CKO ของNOK กล่าวว่าโรงงานเราไม่ต้องการ Super Star ที่เก่งคนเดียว แต่ทางเราต้องการ Teamwork ซึ่งเป็นกลไกที่ทำให้งานประสบความสำเร็จ

ความประทับใจและสิ่งที่ได้จากการดูงานครั้งนี้คือ

1. พบว่าจุดแข็งของ NOK คือการจัดการบริหาร ด้านวิสัยทัศน์ชัดเจนและสามารถกระตุ้นการทำงานของพนักงานในทุกรูปแบบ ทั้งความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ ด้านของภาษาโดยสอนภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นให้พนักงาน ด้านทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน การคิดสร้างสรรค์งานใหม่ๆ โดยแต่ละกลุ่มจะมีการคิดหาวิธีการลดพลังงานหรือสร้างนวัตกรรมอะไรใหม่ๆเพื่อนำเสนอ โดยมีของรางวัลเป็นแรงจูงใจ ที่น่าชื่นชมคือ การทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพมาก พนักงานทุกคนสมารถที่จะให้ข้อมูลข่าวสารและนำเสนอได้ทุกคน และพร้อมบริการและสามารถใช้ KM ได้อย่างผสมผสานและลงตัว

2.จุดอ่อนของ NOK คิดว่าเป็นความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานที่จะพบปะพูดคุยกันมีน้อย เนื่องจากใช้แต่คอมพิวเตอร์ติดต่อทุกเรื่องแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ จนลืมไปว่า เราไม่ใช่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ควรจะต้องมี Free time บ้าง การใช้ระบบไคเซ็นเป็นการลดการสูญเสีย เน้นเพิ่มผลผลิต เป็นการได้ประโยชน์ของโรงงาน แต่อาจจะลืมดูคนทำงานที่เคร่งเครียดอยู่หน้างานตลอดเวลา ทุกคนต้อง Active ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีจุดยืนเช่นกัน จะให้คนเก่าแก่ที่ทำประโยชน์ให้มามากและทำงานมานานไปอยู่ที่ไหน เมื่อองค์กรต้องการแต่วัยหนุ่มสาวทำงาน เพื่อให้ทันต่อการผลิตชิ้นงาน

3. สิ่งที่ประทับใจ ก็คือ พนักงานทุกคนน่ารักมากๆ พร้อมบริการและให้คำอธิบาย การใช้ระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย ทำให้เห็นการจัดระบบการจัดการและสารสนเทศได้อย่างดีและมีคุณภาพ น่าทึ่ง เหมือนคุณสราวุฒิบอกก่อนกลับว่า อย่าลืมแวะมาเยี่ยมพวกเราอีกนะครับ ถึงไม่อยู่ในเมือง...อยู่บ้านนอก..แต่หัวใจ..Center point…นะครับ.

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2550

มะหมา...สี่ขา..ที่น่าสงสาร...เยี่ยมคอนโดสุนัข..ที่วัดสวนแก้ว นนทบุรี

ความรู้คู่กับความแบ่งปันและรู้จักให้
การปิดทองหลังพระด้าน KM …(Knowledge VS Mind ) ที่คอนโดสุนัขวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบปิดทองหลังพระ การทำงานโดยไม่คำนึงถึงความอยากเด่นอยากดัง ทำด้วยใจรักและมีความเมตตาต่อผู้อื่น โดยไม่หวังผลตอบแทน นึกถึงอมตะวาจาที่ว่า “เมตตาธรรมค้ำจุนโลก” ซึ่งผู้ที่ได้รับและซึ้งใจเป็นอย่างดีคือ บรรดามะหมา..สี่ขา..ที่น่าสงสาร ที่วัดสวนแก้ว ซึ่งได้รับความเมตตาจากพระพะยอมผู้ก่อตั้งโครงการ และดูแลโครงการเป็นผู้จัดการคอนโด โดยพี่ดอน ซึ่งมีสมาชิกกว่าสี่ร้อยตั
โครงการนี้เกิดจากการที่กรุงเทพมหานคร จะมีการประชุม APAC ทำให้กลัวว่าภาพพจน์ที่มีสุนัขเร่ร่อนมากมายในกทม.จะส่งผลกระทบต่อสายตาชาวโลก ในด้านความไม่ปลอดภัย ด้านความสะอาดหรือโรคพิษสุนัขบ้าที่ตามมา จึงต้องจับสุนัขเร่ร่อนทั้งหมดของกทม. ตอนแรกจะทำลายก็ผิดมนุษยธรรม แต่จะนำไปไว้ที่ไหนคือปัญหา ทุ่งสีกัน ก็รับไม่ไหวของเดิมก็เยอะอยู่แล้ว ด้วยความเมตตาของพระพะยอม ซึ่งเห็นที่วัดยังพอมีที่ว่างให้ใช้ประโยชน์ในการสร้างที่พักพิงน้องหมาเหล่านี้ได้ ท่านจึงได้รับน้องหมาเหล่านี้มา แล้วจึงเกิด “คอนโดสุนัข” ขึ้นที่วัดสวนแก้ว
คอนโดสุนัขนี้มีลักษณะเป็นอาคารอย่างง่าย 2 ชั้นมีห้องกั้นแบบกว้างๆ และเปิดโล่งเพื่อจะได้ถ่ายเทอากาศ พื้นปูด้วยกระเบื้องจะไดทำความสะอาดได้ง่าย มีลูกกรงกั้นไว้เป็นสัดส่วน เพื่อไม่ให้ออกมาภายนอกบริเวณมากเกินไป มีกรงเล็กๆแยกหมาป่วยไว้ต่างหากจะได้ดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งมีทั้งป่วยเป็นมะเร็ง เนื้องอก ตาบอด ตาเป็นต้อ พิการบางส่วน มีทุกชาติพันธุ์มารวมกันที่นี่ ...กว่าจะรู้จักกัน...กว่าจะเข้าใจกัน... พวกเขามีการทะเลาะกันบ้างแต่ก็เข้าใจกันได้ดี เป็นระเบียบ เป็นมิตรกับทุกค
การดูแลน้องหมาเกือบสี่ร้อยตัวไม่ใช่เรื่องง่าย ในส่วนของอาหารนั้นต้องซื้อซี่โครงไก่วันละ 80Kg ใช้ข้าววันละ 2 กระสอบ(ถุงปุ๋ย) หุงข้าว 10 หม้อขนาดใหญ่ การดูแลทำความสะอาดกรงทั้งภายนอกและภายในบริเวณ การซักผ้าหมาป่วย ( มีผ้ารองให้นอน) ซึ่งมีพี่ดอนและพี่เล็กซึ่งเป็นอาสาสมัครเป็นหลักในการทำงาน มีเพียงน้องๆมาช่วยอีก 2-3 คน ซึงเป็นงานที่หนักมาก มีสัตว์แพทย์มาดูแลเดือนละครั้ง ตัวไหนป่วยก็ส่งไปดูแลรักษาก่อน

อุดมคติของพี่ดอนในการดูแลสุนัขนั้น มีพื้นฐานมาจากความรักและเมตตาสัตว์มาเป็นทุนเดิมและจิตใจที่ดีงามและเสียสละ พี่ดอนทำทุกอย่างทั้งเรื่องอาหาร และการเป็นอยู่ สุนัขที่เพิ่มขึ้น จากตนนำมาทิ้งและพิการ เจ็บป่วย ทำให้สถานที่คับแคบ ก็ต้องขยายโดยพี่ดอนต่อเติมอาคารเอง (ลดค่าใช้จ่ายในการจ้าง) จากเงินบริจาคที่มีผู้มาเยี่ยมเยือนที่ละเล็กละน้อยจนเห็นว่ามีที่รองรับได้เพิ่มขึ้น ไม่แออัดเหมือนเมื่อก่อน

พี่ดอนบอกว่า อยู่กับสุนัขสบายใจดีมีความสุข สุนัขสอนเขาในหลายเรื่อง ทั้งการปล่อยวางจากเรื่องต่างๆ การใช้ชีวิตที่ไม่ประมาท ไม่เห็นแก่ตัว ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ความรักความความเมตตา (ที่ได้จากหลวงพ่อเป็นแบบอย่าง) เนื่องจากสุนัขต่างชาติพันธุ์ทั้งสูงและต่ำ ต่างต้องตกต่ำมาอยู่ร่วมกัน โดนทอดทิ้งและต่างก็รอดชีวิตจากการฆ่าทั้งสิ้น จะเห็นว่าพวกเขาแทบจะไม่ทะเลาะกันเลย อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และรู้ชะตากรรมของตนเอง สุนัขมีแต่ความรักและซื่อสัตย์ให้ตอบแทน
เป็นความชื่นใจยามเหนื่อยล้าของชีวิต การอยู่กับคอนโดสุนัข มีทั้งความสกปรก กลิ่นเหม็นจากมูลสุนัขและเหนื่อย น้อยคนนักที่จะทำงานด้วยรอยยิ้มและความเต็มใจอย่างพี่ดอน ขอยกย่องการ...ทำงานปิดทองหลังพระ..ของพี่ดอน..และยังเป็นขวัญใจของบรรดาน้องหมาอีกด้วย




สิ่งที่ได้รับจากการไปทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ที่คอนโดสุนัขวัดสวนแก้ว ผู้เขียนและคุณกันยามาศ สองคนได้ไปช่วยกันทำความสะอาดกวาดเศษอาหารและมูลสุนัข ตอนแรกรู้สึกกลัวเขากัด เนื่องจากไม่เคยเห็นสุนัขมารวมกันมากขนาดนี้ แต่เมื่อได้ทำความรู้จักคุ้นเคยกันแล้วปรากฏว่า พวกเขาเป็นเหมือนคนขาดความรักความอบอุ่น อยากให้เราจับ เราลูบหัวเขา กอดเขา แสดง

ความรักเอาใจใส่ เขาจะมีความสุขมาก ดวงตาสุกใส สื่อความ หมายหมดใจเลย อย่างนี้นี่เองที่พี่ดอนเรียกว่าความจริงใจของน้องหมา เขาจะเข้ามาคลอเคลียตลอดการทำงานของเราและส่งถึงประตูรถตอนกลับบ้านด้วย





วิชาเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการความรู้นี้ ดร. อมรวรรณ ลิ้มสมมุติ ให้ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม เพื่อจะให้เรารู้จักการให้ ซึ่งการให้ก็เป็นรากฐานของ KM ในการรู้จักการแบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่นในด้านต่างๆที่ตัวเองมี เป็นการจัดการความรู้ที่มีทั้ง Knowledge และ Mind รวมกัน ถ้ามี Knowledge แต่ไม่มี Mind เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการความรู้คงไม่เกิดประโยชน์และไม่เกอดคุณค่า การแบ่งปันคงไม่เกิดขึ้น จากกิจกรรมนี้ได้เรียนรู้มากมายหลากหลายจากประสบการณ์ตรง
ตอนนี้ทางคอนโดสุนัข ยังต้องการคนใจบุญมีเมตตาแวะไปเยี่ยม เพื่อจะได้เห็นว่าสิ่งที่เขาทำนั้น ยังขาดปัจจัยด้านต่างๆอยู่ เช่น อาหาร ยารักษาโรคต่างๆของน้องหมา ถ้าท่านมีเวลาก็แวะไปเยี่ยมและช่วยเหลือเป็นอาสาสมัครช่วยทำความสะอาด ให้อาหารน้อง หมาก็ได้ แล้วท่านจะรู้ว่า เวลาที่ใช้ในคอนโดน้องหมานั้น มีคุณค่ามากกว่าที่ท่านคิด

ไม่ว่าคนหรือสัตว์....ก็ต้องการความรักและเมตตาเหมือนกัน...แล้วคุณล่ะ...ลองหันไปรอบๆตัวคุณว่ามีโอกาสให้ความรักและเมตตาเพื่อนร่วมโลก...แล้วหรือยัง.?....
.....เพราะเราเพื่อนกัน.......