ยินดีต้อนรับ

ยินดีต้อนรับ
ผึ้งงาน-SDU ยินดีต้อนรับค่ะ การจัดการความรู้และการแสวงหาความรู้ การรู้จักให้และรู้จักแบ่งปัน ถ้าไม่รู้จักสิ่งเหล่านี้แล้ว ความรู้ที่มีจากการจบปริญญาใดๆ คงจะไม่สำคัญ สิ่งที่มีคุณค่าของคน ...อยู่ที่ผลของงาน..และการมีจิตใจที่ดีงาม.

ภาพความทรงจำ กรุงปักกิ่ง

ภาพความทรงจำ กรุงปักกิ่ง
SDU สองรุ่นใจรวมเป็นหนึ่งเดียว

วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2550

KM For Fun..D.. “ รับมือโลกร้อน...ย้อนดูสุขภาพ..”

การบูรณาการเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการความรู้
กิจกรรมนักศึกษาปริญญาโท สาขาการจัดการความรู้ ได้จัดงาน KM For Fun..D.. “รับมือโลกร้อน...ย้อนดูสุขภาพ..” ขึ้นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สิ่งที่ได้รับจากงาน KM For Fun..D นั้นมีทั้ง ..Fun ..ความสนุกสนาน....เมื่อใช้ความรู้ในการบูรณาการแล้วผลงานออกมาเป็น ..Fund..กองทุนเพื่อ KM รุ่นต่อไปใช้ในกิจกรรมการจัดการความรู้และนำไปใช้ประโยชน์เพื่อคืนกำไรสู่สังคมต่อไป


กิจกรรม งาน KM For Fun..D..”รับมือโลกร้อน...ย้อนดูสุขภาพ.”.นั้นได้จัดขึ้นเมื่อ 27-28 กันยายน ที่ผ่านมา ทำให้ได้ใช้ความรู้ที่มีอยู่ นำมาใช้ทุกรูปแบบในการจัดการทุนที่มีอยู่สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ให้ได้ผลกำไร โดยความร่วมมือของน.ศ KM ทั้ง 3 รุ่น ร่วมกันจัดบอร์ดความรู้ สำหรับ..รับมือโลกร้อน..การประหยัดพลังงานรูปแบบต่างๆ การลดการใช้สิ่งที่ทำลายสิ่งแวดล้อม การใช้ผ้าฝ้ายทอมือ มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้าย กิจกรรมให้ความรู้บนเวที การเดินแฟชั่นโชว์ผ้าฝ้าย การฉาย VDO เพื่อรับมือปัญหาโลกร้อน และจำหน่ายสินค้าต่างๆ
สำหรับ ...ย้อนดูสุขภาพ..นั้น ได้มีการจัดบอร์ดความรู้ด้านสุขภาพ ด้านอาหารผักผลไม้ต้านโรค สุขภาพกายมีการฉาย VDO เกี่ยวกับสุขภาพและ สุขภาพจิตเนื่องมาจากความเครียดที่พบมากในปัจจุบัน ตรวจสุขภาพฟรี มีการวัดความดัน และปรึกษาปัญหาสุขภาพ มีสมุนไพรต่างๆขาย และนำผลไม้ปั่นเพื่อสุขภาพ มีเล่นเกมคลายเครียด มีสบู่สมุนไพรจำหน่าย มีร้านเสื้อผ้าวัยรุ่น และมีซุ้มความรู้ด้าน

e-Learning
สิ่งที่ได้จากกิจกรรมของวิชาเครื่องมือในการจัดการความรู้ ของน.ศ. ปริญญาโทในครั้งนี้ ทำให้ได้เห็นประสบการณ์ในหลายๆด้านที่เกิดขึ้นจากการจัดงานดังนี้
1. ความสามัคคีจากการทำงานร่วมกัน ของนักศึกษาทั้ง 3 รุ่น ซึ่งจากเดิมมีความคุ้นเคยกันน้อย แต่เมื่อต้องทำงานในเวลาจำกัดร่วมกัน ต้องปรึกษาหารือแบ่งงานและร่วมใจกันทำงานมีเป้าหมายเดียวกัน ทำให้เกิดความสามัคคีเกิดขึ้นเป็นไปโดยธรรมชาติ
2. การวางแผนการปฏิบัติงานครั้งนี้ ได้มีการระดมมันสมองในหลายๆคน เพื่อให้เกิดงาน “รับมือโลกร้อน..ย้อนดูสุขภาพ” ได้สำเร็จ และให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด
3.ได้เรียนรู้ที่จะกระจายงานไปสู่ทุกคน ให้ทุกคนมีส่วนร่วมและรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง
4. ได้เห็นความเป็นตัวของตัวเองของแต่ละคน และความสามารถที่แฝงอยู่แต่พึ่งได้มีโอกาสแสดงออก ทำให้บางคนได้ค้นพบความสามารถใหม่ของตัวเอง
5. เรียนรู้การทำงานเป็นทีมถึงจะรอด ถ้ามีการแตกแยกไม่สามัคคีกัน งานนี้คงไม่สำเร็จเพราะทุกคนคือมือใหม่ทั้งนั้น แต่ละคนเป็นตัวจิ๊กซอร์ตัวหนึ่งของงาน มีความสำคัญพอกัน ขาดใครไปก็จะทำให้งานออกมาไม่สมบูรณ์
6. การมีทีมประเมินสถานการณ์ของการดำเนินงานและการขายของเพื่อจัดสรรให้ได้ผลกำไรมากที่สุด ทำให้เกิดการสำรวจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดเป็นระยะ พร้อมทั้งมองสิ่งแวดล้อมซึ่งมีส่วนผลักดันในการขายด้วยและได้พบว่า
- สถานที่ มีส่วนในการจำกัดคนซื้อที่จะเดินมาไม่ถึงข้างในสุดของงาน จึงมีการปรับแผนกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงว่า ควรจะปรับสถานที่โดยการย้ายร้านมาอยู่ข้างนอกและมีความน่าจะเป็นที่คนเดินทางผ่านไปผ่านมาจะได้แวะมาร่วมงานมากที่สุด จากเดิมคนเดินไม่ถึง
- การประชาสัมพันธ์ มีส่วนเยอะมาก ซึ่งเดิมได้แจกบัตรเชิญและติดประกาศแล้ว จึงได้มีการพิมพ์แจกเพิ่มขึ้นอีกแต่มีการพิมพ์ชื่อสินค้าและราคาด้วยว่ามีราคาไม่แพง มีป้ายราคาติดให้เห็นเด่นชัดเช่น น้ำปั่น 10 บาท เป็นต้น และมีการขายเชิงรุก มีการถือของไปจำหน่ายในหน่วยงาน พร้อมรับออเดอร์ เป็นการบุกตลาดขายตรงในสินค้าจากเดิมอยู่กับที่ ซึ่งก็ได้ผลส่วนหนึ่ง
- การมีมาสคอร์ด เชิญเข้างานเป็นรูปทหารเรือ หน้าทะเล้น ยิ้มทั้งวัน คอยเรียกคนเข้างานก็เป็นสีสรรของงาน

7. เพื่อความอยู่รอด การขายสินค้าจะต้องมีต้นทุน และก็ให้ได้กำไรด้วย ก็ลดราคาเพื่อเพิ่มให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งให้ขายได้มากขึ้น ได้กำไรน้อยลงเพื่อความอยู่รอด ดีกว่าขายไม่ออก
8. บทเรียนที่ได้หลังกิจกรรม เมื่อนำมาวิเคราะห์ดูผลงานว่าได้กำไรขาดทุน อะไรเป็นปัญหาในงานที่เกิดขึ้น และถ้าจะแก้ไขให้ดีขึ้นควรทำอย่างไร เช่น เมื่อเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น ก็เห็นโอกาสในการพัฒนาให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป เป็นการวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งของงานในครั้งนี้
9. สุดท้ายที่ได้คือ การละลายพฤติกรรมของกันและกัน ในการทำงานมีเวลาน้อยต้องร่วมมือร่วมใจกันทำงาน ต้องช่วยกัน ใครมีความสามารถพิเศษอะไรก็ขนมาใช้ในกิจกรรมนี้ให้หมดช่วยทำหลายอย่างร่วมกัน เป้าหมายสำเร็จ คือ ทีม

สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดคือ เหตุการณ์ที่อาจารย์ให้เลือกว่าใครที่ทำงานดีมากที่สุดหรือมีบทบาทมากที่สุด ให้เลือกใส่ชื่อมา 2 คน ( ผู้เขียนไม่เห็นด้วยกับคำถามนี้เลย ทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่อยากเลือก ทำให้อึดอัดในการตอบ) จากคนทำงานทั้งหมด 19 คน ผลที่ได้รับคือ ไม่มีชื่อ 2 คนที่ต้องการคำตอบ มีแต่คำว่า ทุกคนทำทุกอย่างร่วมแรงร่วมใจกันอยู่เคียงข้างกันตลอด จึงไม่สามารถเสนอรายชื่อใครคนใดคนหนึ่งได้ เพราะทุกคนเป็นทีมเวิร์คสำคัญเท่าการบูรณาการเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการความรู้
จะเห็นว่าการเรียนวิชาเครื่องมือในการจัดการความรู้ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตนี้ ได้ใช้บูรณาการของความรู้ทั้งหมดที่มีมาใช้ในการจัดงาน..รับมือโลกร้อน..ย้อนดูสุขภาพ..ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างดี ผลกำไรที่ได้นี้ก็ยังนำไปตั้งกองทุน KM For Fun…D ซึ่งได้ทั้งความสนุกสนานและ ได้ทั้งเงินตั้งกองทุนเพื่อสังคมต่อไป.

ไม่มีความคิดเห็น: